Tuesday, 29 June 2010

Somewhere Thai // IMTGD 2010









ผลงานที่นำเสนอหรือสะท้อนความหมาย ภายใต้ประเด็น “Somewhere Thai” โครงการต่อเนื่อง
ต่อจาก "I am a thai graphic designer"

ผลงานทั้งหมด 4 ชิ้น ได้แก่ "Somewhere Thai people" , "Somewhere Thai smile" ,
"Somewhere Thai rice" , "Somewhere Thai art" คือผู้คน รอยยิ้ม นาข้าว และ ศิลปะไทย

จริงๆ แล้ว สิ่งที่สามารถสื่อความหมายถึงความเป็นไทยคงมีอีกหลายเรื่องราว หลายรูปแบบ เพียงแต่ผม
เลือกมานำเสนอเพียงเท่านี้ ซึ่งหากจะดึงมาทั้งหมดคงมีมากมาย โดยภาพที่ใช้สื่อความหมายทั้งหมด
มิใช่ภาพที่ถ่ายเอง เป็นภาพที่ได้จากการค้นหาจากอินเตอร์เน็ตเพื่อใช้สื่อความหมายให้เห็นชัดเจน
มากขึ้นเท่านั้น นอกเหนือจากภาพนั้น ทำเองทั้งหมด เท่าที่เห็นเด่นๆ ก็คือ ตัวอักษร ที่น่าจะสื่อได้ถึง
ความสบายง่ายๆ ในแบบที่คนไทยเป็นอยู่ แต่ตัวอักษรชุดนี้ก็อาจจะไม่ได้สื่อถึงความเป็นไทยอย่าง
ชัดเจน เป็นอักษรในลักษณะเหมือนกับลายมือเขียน

ในทีแรก อยากจะใช้ภาพพื้นหลังเป็นพื้นสีทอง เหมือนกับทองคำเปลว แต่สุดท้ายก็นำมาแค่ลวดลาย
รอยย่นของแผ่นทองคำเปลวมาเท่านั้น ซึ่งมันก็ทำให้ผลงานดูง่ายขึ้น

Tuesday, 22 June 2010

"บ้านส้ม"

ความต้องการของ "บ้านส้ม" ในการทำตราสัญลักษณ์ขึ้นมาใช้ เพื่อให้เกิดความเป็นเอกลักษณ์ สร้างความ
น่าเชื่อถือให้กับผู้คนโดยทั่วไป เด็กนักเรียน ครูผู้สอน ฯลฯ

แนวคิดอย่างง่ายๆ คือ สื่อถึงความที่เป็นสถานที่สอนพิเศษให้กับเด็กๆ คนที่พบเห็นกลุ่มหนึ่งก็คือเด็กๆ
เพราะฉะนั้นก็น่าจะทำให้เข้าถึงเด็กๆ ได้ง่าย โดยรูปแบบ หรือองค์ประกอบต่างๆ อีกอย่างคือ ตรงตัวกับคำว่า
"บ้านส้ม" อย่างน้อยๆ น่าจะเป็นสีส้มเป็นองค์ประกอบหลัก









การให้ความสำคัญกับภาพลักษณ์ของห้างร้าน องค์กรของตัวเองนั้น เป็นสิ่งที่ดีสำหรับผู้ที่ต้องการสร้าง
อัตลักษณ์ ให้กับตัวเอง หากสินค้าหรือความสามารถของตัวเองได้พัฒนาถึงจุดหนึ่งที่ดีแล้ว สิ่งนี้ก็นับเป็น
สิ่งสำคัญที่จะช่วยทำให้เกิดรูปแบบ ความเป็นสากล ความน่าเชื่อถือให้กับตัวเองได้

Wednesday, 9 June 2010

i am a thai graphic designer





"I am a thai graphic designer" / "ฉันเป็นนักออกแบบกราฟิกไทย"
เป็นโครงการตั้งแต่เมื่อประมาณปี 2552 โดยเชื้อเชิญนักออกแบบกราฟิกส่งผลงานเข้าร่วมโครงการ
รวบรวมภาพถ่ายนักออกแบบกราฟิกไทยให้มากที่สุดโดยภาพถ่ายเหล่านั้นจะเป็นภาพถ่ายของ
นักออกแบบแต่ละคนที่ถือแผ่นกระดาษ A3 ที่มีผลงานออกแบบตัวอักษรคำว่า “ฉันเป็นนักออกแบบ
กราฟิกไทย”
หรือ “I am a Thai Graphic Designer” โดยรูปแบบของผลงานนั้นขึ้นอยู่กับ
ความคิดของนักออกแบบเจ้าของงาน

จำไม่ได้แล้วว่าได้รับข่าวสารของโครงการนี้จากไหน จำได้แต่่ว่าเมื่อได้อ่านแล้วความคิด ความอยากที่จะ
มีส่วนร่วมในโครงการนี้ก็พุ่งขึ้นมาทันที จากที่ไม่ค่อยได้เข้าร่วมส่งผลงานสักเท่าไร ในใจก็คิดว่าเป็น
โครงการที่น่าสนใจ ไม่ค่อยมีการรวมตัวของกลุ่มนักออกแบบกราฟิกดีไซน์มากเท่านี้มาก่อน แล้วคาดว่า
ผลตอบรับโครงการนี้น่าจะเป็นที่น่าพอใจสำหรับผู้จัด (ต้องขอขอบคุณอีกครั้งที่จัดโครงการนี้ขึ้นมาครับ)

โครงการ somewhere thai เป็นโครงการต่อเนื่องที่จะจัดขึ้นในปีนี้ โดยสามารถส่งผลงานเข้าร่วมได้หลาย
รูปแบบมากขึ้น ผลงานที่ส่งเข้าร่วมจะเป็นสัญลักษณ์ / โปสเตอร์ / การออกแบบตัวอักษร / บรรจุภัณฑ์
/ ภาพถ่าย / ภาพประกอบ / ภาพกราฟิก / โมชั่นกราฟิก / ภาพยนตร์ / บทความฯลฯ จะเป็นผลงานเรียน
ผลงานจริง หรือเป็นผลงานทดลองก็ได้ โดยจะรวบรวมเพื่อนํามาเสนอในรูปแบบการประชุมสัมมนา
IMTGD®Forum และหนังสือ



somewhere thai อาจตีความหมายได้หลายอย่าง จึงทำให้มีอิสระในการคิดมากขึ้น ดังนั้นผมก็คาดว่า
น่าจะมีผู้สนใจเข้าร่วมโครงการมากขึ้นกว่าปีที่แล้ว ซึ่งก็น่าจะช่วยให้ทางผู้จัด ผู้มีส่วนร่วมทุกๆ คน มี
กำลังใจในการจัดกิจกรรมแบบนี้อีก...


ข้อมูลอ้างอิงจาก www.imtgd.org

Saturday, 5 June 2010

สมุดบันทึก






สมุดบันทึกขนาดเล็ก สำหรับพกพา ไม่มีเส้นบรรทัด กระดาษที่ใช้เป็นกระดาษถนอมสายตา ผู้ที่
ชื่นชอบการบันทึกเรื่องราวต่างๆ ขณะเดินทาง หรือแม้กระทั่งผู้ที่ชื่นชอบการวาดภาพเป็นชีวิตจิตใจ
ตลอดจนการบันทึกสิ่งต่างๆ ในชีวิตประจำวัน

การผลิตเป็นการผลิตอย่างง่ายโดยวิธีการที่เรียกว่า "เย็บมุมหลังคา" อุปกรณ์ก็คือลวดเย็บกระดาษ
ซึ่งก็หาซื้อได้ง่ายและเป็นที่รู้จักกันดี ฉะนั้นแต่ละคนก็สามารถออกแบบและทำเองได้ที่บ้าน แต่
กระดาษที่พิมพ์ น่าจะต้องแข็งสักหน่อย สัก 120 แกรม เป็นอย่างน้อย และก็ควรจะกันน้ำได้ด้วย
คือเวลาโดนน้ำแล้วหมึกจะไม่ลอก หรือจางออก

เรื่องของกระดาษก็มีส่วนช่วยให้งานออกแบบมีคุณค่า ความงาม มากขึ้น ลายต่างๆ ผิวกระดาษแบบ
ต่างๆ ชนิดกระดาษ เอาแบบที่พอหาซื้อได้ง่าย แต่ถ้าอยากได้คุณภาพสักหน่อย คงต้องติดต่อบริษัท
ที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมกระดาษ ซึ่งปัจจุบันมีให้เลือกมากมาย ขึ้นอยู่กับชนิดงานและจำนวนชิ้นงาน
และความจำเป็นด้วย จำพวกนิตยสารที่ต้องการความแปลกใหม่ของกระดาษเพื่อดึงดูดสายตาผู้ซื้อ เป็นต้น

ลวดลายหรือแบบที่นำมาทำนั้นก็เป็นแบบที่คุ้นตากันดี เช่น ลายอั่น ลายกรีนธัม (ค่อนข้างหลายแบบ)
มีเพิ่มเข้ามาบ้างบางแบบที่ยังไม่ได้นำไปทำเสื้อ เช่น ลาย mr.shrub ลายแผนที่จังหวัดขอนแก่น
ลาย come green together
หรือภาพถ่ายต้นไม้ ที่บางทีก็ดูเป็นจุดๆ หลายจุด ไม่เฉพาะจุดสีเขียว
มีทั้งดำ ขาว และเหลืองด้วย แต่ให้ความรู้สึกถึงสีเขียวเสียมากกว่า

สมุดบันทึกที่แข็งแรงขึ้นมาหน่อยก็จะมีวิธีการเข้าเล่มที่ซับซ้อนมากขึ้น หลากหลายมากขึ้น เป็นกรรมวิธี
ที่อาจต้องใช้ความชำนาญบ้าง แต่หากทำได้ความแข็งแรง ความแปลกใหม่ ก็จะเกิดขึ้น เพื่อให้เหมาะ
กับขนาดและการใช้งานของผู้ใช้

เล่มใหญ่ขึ้น ปกแข็งขึ้น แข็งแรงขึ้น เป็นสิ่งที่จะต้องพัฒนาต่อไปในการทำสมุดบันทึกทำมือ ยิ่งถ้าลด
ต้นทุนการพิมพ์ด้วยการเพ้นท์แทน ก็น่าจะดี และมีคุณค่าขึ้นอีก

Wednesday, 2 June 2010

กรีนธัมที่ถนนฅนเดิน ขอนแก่น

ถนนฅนเดินขอนแก่น เริ่มมีขึ้นมาได้เพียงไม่นาน แต่ร้านรวงที่มาตั้งแผงนั้นเยอะมากขึ้นทุกวันๆ
เหล่านักช็อปก็เยอะจริงๆ ตั้งแต่ช่วงหัวค่ำ ถึงช่วงกลางดึก ผู้คนไม่ได้ลดน้อยถอยลงเลย...

ร้านกรีนธัมจึงสนใจและตัดสินใจลองไปออกนอกสถานที่ดูบ้าง ด้วยเคยเป็นถิ่นที่อยู่เก่า ที่เคย
ใช้ชีวิตมาเกือบ 10 ปีได้ ได้ทั้งเงินได้ทั้งความรู้สึกได้กลับไปในที่เก่า ก็นับว่าคุ้ม











ที่ขอนแก่น มีร้านที่ขายของทำมือเยอะแยะมากมาย ทั้งที่เรารู้จักและไม่รู้จัก มีผลงานไอเดียใหม่ๆ
เกิดขึ้นมากมาย ทั้งแบบที่ยึดเป็นอาชีพ เอาจริงเอาจังเลยก็มี แบบที่ทำเป็นรายได้เสริม สำหรับ
นักศึกษา ก็มี การแข่งขันก็ค่อนข้างสูง แต่ในนั้นก็ยังมีสิ่งที่ดีนอกเหนือจากการที่มาขายของแข่งกัน
คือ เป็นตลาดไอเดียสดใหม่ขนาดใหญ่ที่จะช่วยเรียกลูกค้าได้เป็นอย่างดี

แต่เนื่องด้วยระยะทางจากชุมแพกับขอนแก่นนั้นก็ไม่ได้เรียกว่าใกล้สักเท่าไหร่ การเดินทางไป
ทุกวันเสาร์นั้น ก็ต้องมีค่าเดินทาง จึงทำให้เราอาจได้พบกันได้ไม่บ่อยนัก แต่ว่าได้พบเจอกันอยู่
สม่ำเสมอแน่นอน

พบกันได้ที่วงน้ำชาขอนแก่น

เมื่อไม่นานมานี้ มีเพื่อนที่ไม่ค่อยได้เจอกันนาน แวะมาเยี่ยมเยียนที่ร้าน ทักทายพูดคุยกันไปตาม
ประสา ก่อนหน้านี้ก็รู้อยู่ว่านายคนนี้ (นายสอยอ) ได้ไปทำงานพิเศษที่ร้านแห่งหนึ่งในตัวเมืองขอนแก่น
โดยที่ได้มีรายได้อย่างใด ได้แค่ความสุขใจที่ได้ทำใ้ห้เกิดสังคมแห่งใหม่ขึ้น

วงน้ำชาขอนแก่นนั้น มีจุดเริ่มต้นคือ น้ำใจดีๆ ที่มีให้แก่กัน หลากหลายผู้คนได้มีโอกาสมาร่วมสร้างเวที
และพูดคุยแลกเปลี่ยนก่อให้เกิดเวทีแลกเปลี่ยนสิ่งดีๆ ระหว่างกัน โดยมี "น้ำชา" เป็นเครื่องดื่มไว้ให้
จิบ พาให้หัวใจและสมองเพลิดเพลินและเปิดกว้างไปกับสิ่งแปลกใหม่ที่แต่ละคนนำมาเล่าสู่กันฟัง

กลับมาที่นายสอยอ พอได้เห็นสินค้าของเรา ก็เกิดความคิดอยากที่จะช่วยเหลือ ช่วยประชาสัมพันธ์
จึงอาสาปนๆ กับขออนุญาตนำสินค้าไปวางขายไว้ที่นั่น เผื่อจะมีคนรู้จักมากขึ้น และนี่คือน้ำใจเล็กๆ
น้อยๆ ที่พอจะช่วยๆ กันได้ระหว่างเพื่อนกับเพื่อน จากนั้นนายสอยอก็ยังช่วยซื้อเสื้อ "อั่น" และสินค้า
อื่นๆ อีกหลายอย่าง ขอบคุณมากครับ....

ลืมกล่าวถึงวงน้ำชาขอนแก่นไปซะได้ ตั้งอยู่บริเวณริมบึงแก่นนคร ด้านหน้าชีวาทิพย์สปา
http://wongnamcha.blogspot.com